“หงส์แดง”ลิเวอร์พูล พบ “เรือใบสีฟ้า”แมนซิตี้ : 5 ประเด็นก่อนเกมบิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีก

ลิเวอร์พลู-แมนซิตี้

สุดยอดเกมบิ๊กแมตช์ประจำวันอาทิตย์ที่ 1 ธ.ค.นี้ หลายคนมองว่าอาจเป็นเกมตัดสินชะตาแชมป์พรีเมียร์ลีก เพราะถ้า ลิเวอร์พูล ชนะ แมนซิตี้ นั่นหมายความว่าพวกเขาจะทำแต้มทิ้งห่าง “เรือใบสีฟ้า” ไปไกลสุดกู่ ดังนั้นแชมป์เก่าถ้าไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว จำเป็นอย่างยิ่งต้องคว้าเก็บชัยชนะที่ถิ่นแอนฟิลด์ให้ได้ เพื่อกลับมาสู่เส้นทางลุ้นแชมป์ของตัวเองอีกครั้ง

1. แนวรับต้องปรับ
แฟนบอล “หงส์แดง” ใจหายหลังได้เห็น อิบราฮิม่า โกนาเต้ นั่งลงในสนามและทีมแพทย์เข้ามาปฐมพยาบาลเบื้องต้นเนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บเข่าในเกมที่ชนะ เรอัล มาดริด ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ ลีก เฟส เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

สำหรับตอนนี้มีการยืนยันชัดเจนว่า โกนาเต้ หมดสิทธิ์ลงสนามในเกมรับมือ แมนซิตี้ ช่วงสุดสัปดาห์นี้เป็นที่แน่นอน และที่น่าเป็นห่วงก็คือ ดาวเตะชาวฝรั่งเศส อาจต้องเข้ารับการฟื้นฟูร่างกายนานถึง 5-6 สัปดาห์เลยทีเดียว

ดังนั้นนี่เป็นปัญหาที่ อาร์เน่อ สล็อต ต้องแก้ไข และมีความเป็นไปได้สูงที่ โจ โกเมซ จะได้ลงไปทำหน้าที่สำคัญคู่กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ซึ่งเชื่อว่าสาวก “เดอะ ค็อป” คงหวั่นใจพอสมควร เพราะนักเตะไม่ค่อยได้ลงสนาม

2. “บังโม” โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ชอบยิง แมนซิตี้
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ถือเป็นหนึ่งในคีย์แมนสำคัญที่ ลิเวอร์พูล ขาดไม่ได้เลย แม้เกมล่าสุดจะซัดจุดโทษไม่เข้าก็ตาม แต่เขายังคงเป็นผู้เล่นที่ โค้ชอาร์เน่อ ต้องการอย่างมากในเกมบิ๊กแมตช์รับมือแชมป์เก่า เพราะประสบการณ์ของ “บังโม” ถือว่ามีประโยชน์อย่างมากกับทีม

สตาร์ชาวอียิปต์ วัย 32 ปี ยังคงรักษามาตรฐานการเล่นชั้นยอดเอาไว้ได้เสมอ แม้อายุจะมากขึ้น ความเร็ว และความแข็งแกร่งลดลง แต่ประสบการณ์โชกโชนซึ่งสิ่งนี้มีความสำคัญอย่างมากในการสู้กับทีมที่แข็งแกร่งอย่าง แมนซิตี้ โดยนักเตะได้แสดงให้เห็นมาแล้วในแมตช์ปราบ “ราชันชุดขาว”

ดังนั้นแล้วด้วยผลงานระดับมาสเตอร์พีซขนาดนี้ บอร์ดบริหารลิเวอร์พูล คงต้องขบคิดให้ดีเรื่องการขยายสัญญาฉบับใหม่ เพราะด้วยศักยภาพและประสบการณ์ของ “คิง ออฟ อียิปต์” มันคุ้มค่ามหาศาลที่จะเก็บเขาเอาไว้กับทีมต่อไป

3. จังหวะสวนกลับอันตราย, แบ็กซ้ายมีปัญหา
หนึ่งในสิ่งที่เป็นอาวุธเด็ดของ ลิเวอร์พูล นั่นก็คือการเล่นจังหวะสวนกลับ เพราะพวกเขาทำได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่ยุคเจอร์เก้น คล็อปป์ จนมาถึงยุคโค้ชอาร์เน่อ และนี่อาจจะเป็นสิ่งที่ เป๊ป ต้องกระตุ้นลูกทีมห้ามเสียบอลในจังหวะขึ้นเกมรุกเด็ดขาดไม่งั้นมีสิทธิ์น้ำตาร่วงได้

จากสถิตในฤดูกาล 2024/2025 ทัพ “หงส์แดง” เป็นสโมสรที่เล่นเกมสวนกลับได้อันตรายเป็นอันดับ 2 โดยสามารถทำได้ถึง 5 ประตู เป็นรองเพียงแค่ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่ทำได้ 9 ลูกจากจังหวะดังกล่าว

ดั้งนั้น ลิเวอร์พูล ก็มีพื้นที่ที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วงเช่นกันนั่นก็คือแบ็กซ้าย เพราะ โรเบิร์ตสัน ฟอร์มค่อนข้างดร็อปลงไปพอสมควร แถมยังทำเสีย 2 จุดโทษจาก 2 เกมล่าสุด ฉะนั้นนี่เป็นสิ่งที่ บอสอาร์เน่อ ต้องรีบปรับแก้เป็นการด่วน

อย่างไรก็ตามในเรื่องเกมรับ “หงส์แดง” ในยุคกุนซือหัวใสค่อนข้างเหนียวแน่น โดยเสียแค่ 8 ประตูในลีก ดังนั้นกองหลังอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนของเกมนี้ ซึ่งถ้าเจ้าบ้านรักษามาตรฐานการเล่นที่เหนียวแน่น และใช้จังหวะสวนกลับที่โดดเด่นเล่นงานทีมเยือน งานนี้มีโอกาสที่จะได้เห็นอะไรเด็ดๆ ก็ได้

4. เป๊ป ต้องปรับเกมรับด่วน
ผลงานของ แมนซิตี้ ในช่วง 6 เกมที่ผ่านมาถือว่าผิดฟอร์มอย่างยิ่งของทีมในยุคที่เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุมบังเหียน โดยเฉพาะเกมรับที่เปราะบางเหลือเกิน และนั่นทำให้พวกเขากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากอย่างที่เห็นในเวลานี้

แน่นอนว่ากับการขาด “โรดรี้” กองกลางทีมชาติสเปน ซึ่งคว้าบัลลงดอร์ประจำปี 2024 ทำให้ทีมขาดสมดุลอย่างมาก แต่กระนั้นจุดที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่าก็คือเกมรับ เนื่องจากทีมเสียประตูง่ายมาก

ปัญหากองหลังของ แมนซิตี้ ถือว่าน่าเป็นห่วงอย่างมาก เพราะพวกเขาเก็บคลีนชีตไม่ได้เลยนับตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม และเสียไปถึง 17 ประตูนับตั้งแต่นั้น แต่ที่ย่ำแย่ยิ่งกว่านั้นก็คือการยิงได้แค่ประตูเดียวในการเล่นเกมเยือน 4 แมตช์ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ กวาร์ดิโอล่า มีความทรงจำไม่ค่อยดีนักจากการไปเยือนถิ่่นแอนฟิลด์ ในช่วงที่ผ่านมา โดยชนะแค่เกมเดียวจาก 9 แมตช์ แถมแพ้ไปถึง 5 และเสมอ 3 เกมเท่านั้น

5. โอกาสคว้าแชมป์ลีกเพิ่มขึ้น
ฟอร์มของ “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล ในยุคโค้ชอาร์เน่อ ต้องบอกว่าเซอร์ไพรส์อย่างมาก เพราะไม่มีใครคิดว่าเขาจะสามารถนำทีมโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอด หลังได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาทำงานแทน เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่อำลาสโมสรในช่วงซัมเมอร์นี้

ชัยชนะ 17 จาก 19 เกมในทุกรายการ โดยเสมอ 1 และแพ้ 1 แมตช์เท่านั้น ถือว่าเกินคาดสำหรับกุนซือใหม่ที่ต้องมารับไม้ต่อจากยอดผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน ยิ่งไปกว่านั้นเขาสามารถนำ “หงส์แดง”ลิเวอร์พลู เป็นจ่าฝูงทั้งในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

สำหรับแมตช์รับมือ แมนซิตี้ ต้องบอกว่ามีความสำคัญในระดับหนึ่งเลยทีเดียว แม้มันจะไม่ใช่เกมตัดสินแชมป์ลีก เนื่องจากหนทางยังอีกยาวไกล แต่ถ้าหากเก็บสามแต้มได้ นั่นหมายความว่า ลิเวอร์พูล จะทิ้งห่างแชมป์เก่าไปไกลถึง 11 แต้มเลยทีเดียว